ผลไม้อบแห้งมีข้อดีอยู่หลายประการคือ นอกจากจะเป็นการเก็บผลไม้ไว้ได้อย่างยาวนานแล้วนั้น ในระหว่างขั้นตอนการอบแห้งก็สามารถเติมวิตามินที่เป็นประโยชน์ต่อร่างกายเข้าไปได้ อีกทั้งยังเป็นวิธีที่สูญเสียวิตามินได้น้อยกว่าวิธีถนอมผลไม้แบบอื่นๆ การเก็บรักษาก็ง่ายเพราะสามารถเก็บไว้ได้ในอุณหภูมิห้อง มีน้ำหนักเบาทำให้ประหยัดค่าขนส่ง แต่เชื่อว่ายังมีอีกหลายคนที่สงสัยว่า ผลไม้อบแห้งนี้ดีต่อสุขภาพจริงหรือไม่ เรามีข้อมูลให้พิจารณาดังต่อไปนี้

1. มีน้ำตาลน้อย

ปราศจากการแต่งสี รสชาติ และกลิ่น ซึ่งจะยังคงให้รสหวานตามธรรมชาติ ทำให้ไม่ไปเพิ่มระดับน้ำตาลในเลือด เหมาะสำหรับผู้ที่มีน้ำตาลในเลือดสูง แต่ถ้านำผลไม้แช่อิ่มด้วยน้ำตาลจนหวานเรียบร้อยแล้วมาอบแห้งแบบนี้ จะเป็นผลเสียกับสุขภาพอย่างแน่นอน เพราะมีน้ำตาลสูงที่ไม่เหมาะกับผู้ป่วยโรคเบาหวาน รวมถึงผู้ที่ต้องการลดน้ำหนักอีกด้วย

2. มีกากใยอาหารสูง

การอบแห้งเป็นกรรมวิธีที่ทำให้ผลไม้คายน้ำออกมาจนเหลือแต่เนื้อแห้งๆ ซึ่งไม่ทำให้บูดเน่าหรือเสียง่ายเท่านั้น เพราะฉะนั้นกากใยอาหารจะยังคงอยู่สมบูรณ์ ทำให้ผู้ที่รับประทานผลไม้อบแห้งยังคงได้กากใยอาหารที่จะช่วยในเรื่องการขับถ่ายได้ดีไม่น้อยกว่าผลไม้สดเลย และช่วยให้รู้สึกอิ่มนาน พร้อมกับป้องกันไม่ให้ระดับน้ำตาลในเลือดสูงเกินไปอีกด้วย

3. ไม่มีน้ำมัน

เหมาะกับผู้ที่ต้องการลดน้ำหนัก เนื่องจากการอบแห้งเป็นการใช้ความร้อน โดยไม่ได้ใช้น้ำมันหรือปรุงแต่งอย่างอื่นเพิ่มเติม เราจึงมั่นใจได้ว่าผลไม้ที่ผ่านการอบแห้งจะไม่มีน้ำมันส่วนเกิน หากรับประทานแล้วจะเป็นการเพิ่มน้ำหนักเหมือนวิธีการถนอมอาหารด้วยการทอดหรือแช่อิ่มอย่างแน่นอน

4. มีสารอาหารเหมือนผลไม้สด

การอบแห้งไม่ได้เป็นการทำลายสารอาหารที่มีอยู่ในผลไม้ ดังนั้นผลไม้อบแห้งจะยังคงมีสารอาหารคงเดิม เช่น มีโพแทสเซียมที่ช่วยป้องกันการชักกระตุกของกล้ามเนื้อและลดอาการบวมน้ำ มีแคลเซียมที่ช่วยบำรุงกระดูกและฟัน วิตามินเอช่วยบำรุงผิวพรรณ วิตามินบีทำให้เซลล์และระบบต่างๆ ในร่างกายทำงานอย่างเป็นปกติและมีประสิทธ์ภาพ ธาตุเหล็กทำให้ระบบหมุนเวียนเลือดในร่างกายทำงานดี

นอกจากนี้ผลไม้อบแห้งบางชนิดอุดมไปด้วยเบต้าแคโรทีน ซึ่งช่วยบำรุงผิวและสายตา อีกทั้งการจะได้รับวิตามินหรือแร่ธาตุที่เป็นประโยชน์กับร่างกายนั้น ก็ย่อมจะขึ้นอยู่กับว่าผลไม้อบแห้งนั้นๆ คือผลไม้ชนิดใดนั่นเอง จึงเป็นอันแน่ใจได้ว่าการรับประทานผลไม้อบแห้ง จะไม่ทำให้ขาดสารอาหารที่จำเป็นในผลไม้สดอย่างแน่นอน

ข้อควรระวังในการรับประทานผลไม้อบแห้ง

ในผลไม้อบแห้งบางชนิดอาจมีปริมาณแคลอรีสูงเมื่อเปรียบเทียบกับผลไม้สด อีกทั้งทำให้มีขนาดเล็กกว่าและเบากว่าอีกด้วย นั่นเป็นเพราะถูกทำให้น้ำระเหยออกไป แต่ก็ยังคงคุณค่าและไม่ได้ทำให้สารอาหารด้อยไปกว่าผลไม้สดเลย ดังนั้นจึงต้องรับประทานในปริมาณน้อย แต่ควรเคี้ยวนานๆ ถึงจะเป็นการป้องกันไม่ให้ร่างกายได้รับพลังงานมากจนเกินไปนั่นเอง

วิธีที่จะช่วยให้ผลไม้อบแห้งยังคงรักษาคุณค่าทางอาหารอันเป็นประโยชน์ต่อร่างกายนั้นคือ ต้องเก็บผลไม้ในขณะที่มีระดับความสุกกำลังเหมาะสมในแต่ละชนิด ก่อนเริ่มทำการอบแห้งจะต้องทำความสะอาดผลไม้ให้ปราศจากยาฆ่าแมลงหรือสารตกค้างให้มากที่สุด อุปกรณ์ที่ใช้อย่างเช่นมีดหรือภาชนะในการใช้งานต้องสะอาด จึงจะทำให้การรับประทานผลไม้อบแห้งนั้นมีประโยชน์เกิดขึ้นแก่ร่างกายอย่างแท้จริง

ใครชอบหิวตอนบ่ายยกมือขึ้น ! มาจดสูตรทำ  (Chip) เมนูผักและผลไม้อบกรอบ ของว่างไม่อ้วน มีคุณค่าจากวิตามิน เคี้ยวเพลินได้ตลอดวัน กินอร่อยพุงไม่ย้วย ทำไงดีถ้าชอบหิวระหว่างวัน ตัวเลือกอันดับต้น ๆ หลายคนคนนึกถึงกราโนล่าลดความอ้วน แต่กินบ่อยก็เบื่อเหมือนกัน คงจะดีถ้าหากมีอาหารว่างไม่อ้วนอื่น ๆ มาแก้ขัด กระปุกดอทคอมขอนำเสนอวิธีทำชิปส์ หรือเมนูผักและผลไม้อบกรอบ มีหลากหลายสไตล์ให้เลือก ทำไม่ยากอย่างที่คิด แถมเป็นของว่างแคลอรีต่ำ ทำกินเองหรือทำแจกเพื่อน ๆ ก็ได้จ้า  

ผลไม้อบกรอบ
1. แอปเปิลอบกรอบ (Cinnamon Ginger Baked Apple Chips)
ต่อไปนี้ถ้าเห็นแอปเปิลราคาถูกให้กว้านซื้อมาได้เลยค่ะ เพราะนอกจากจะกินสดแล้วยังเอามาแปรรูปทำแอปเปิลอบกรอบอร่อย ๆ ได้อีกด้วย สูตรนี้ใส่ผงอบเชยและขิงผงแต่งกลิ่น ไม่ว่าจะเป็นแอปเปิลสีไหนก็ทำได้หมดเลยค่ะ

ส่วนผสม แอปเปิลอบกรอบ
     • แอปเปิล 4 ลูก
     • น้ำเลมอนคั้น 1 ลูก
     • น้ำเย็น 2 ถ้วย
     • ผงอบเชย
     • ขิงผง

วิธีทำแอปเปิลอบกรอบ

     1. เปิดเตาอบที่อุณหภูมิ 200 องศาฟาเรนไฮต์ และปูกระดาษรองอบ เตรียมไว้
     2. เทน้ำเลมอนผสมกับน้ำเย็น นำแอปเปิลหั่นสไลซ์แช่ลงไปสักครู่เพื่อไม่ให้แอปเปิลเปลี่ยนเป็นสีคล้ำลง
     3. นำแอปเปิลมาวางบนถาดอบที่เตรียมไว้ โรยผงอบเชยกับขิงผงลงไป นำไปอบประมาณ 1 ชั่วโมง หรือจนกรอบ นำออกมาพักไว้จนเย็น เก็บใส่ภาชนะปิดฝา